แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติการพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน พ.ศ. 2535
************************************
1. พระราชบัญญัติการพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน พ.ศ. 2535 ให้ไว้ ณ วันใด
ก. 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535 ค. 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535
ข. 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535 ง. 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535
ตอบ ข. 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535
2. พระราชบัญญัติการพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน พ.ศ. 2535 ให้ยกเลิกกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติการพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๙๖
ข. พระราชบัญญัติการพลังงานแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕o๗
ค. พระราชบัญญัติการพลังงานแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๓ ให้ยกเลิก
(๑) พระราชบัญญัติการพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๙๖
(๒) พระราชบัญญัติการพลังงานแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕o๗
(๓) พระราชบัญญัติการพลังงานแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒
(๔) พระราชบัญญัติการพลังงานแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓o บรรดากฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้ หรือ ซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
3. พระราชบัญญัติการพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน พ.ศ. 2535 มีกี่มาตรา
ก. 35 มาตรา ค. 41 มาตรา
ข. 39 มาตรา ง. 45 มาตรา
ตอบ ค. 41 มาตรา
4. ข้อใด คือ “พลังงานหมุนเวียน”
ก. ถ่านหิน น้ำมันดิบ ค. ก๊าซธรรมชาติ ฟืน
ข. ทรายน้ำมัน ไม้ ง. แสงอาทิตย์ ความร้อนใต้ภิภพ
ตอบ ง. แสงอาทิตย์ ความร้อนใต้พิภพ
“พลังงานหมุนเวียน” หมายความรวมถึง พลังงานที่ได้จากไม้ ฟืน แกลบ กากอ้อย ชีวมวล น้ำ แสงอาทิตย์ ความร้อนใต้ภิภพ ลม และคลื่น เป็นต้น
5. ข้อใดคือ “พลังงานสิ้นเปลือง
ก. กากอ้อย ชีวมวล ค. น้ำมันดิบ น้ำมันเชื้อเพลิง
ข. ไม้ ฟืน ง. นิวเคลียร์ คลื่น
ตอบ ค. น้ำมันดิบ น้ำมันเชื้อเพลิง
“พลังงานสิ้นเปลือง” หมายความรวมถึง พลังงานที่ได้จากถ่านหิน หินน้ำมัน ทรายน้ำมัน น้ำมันดิบ น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ และนิวเคลียร์ เป็นต้น
6. กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน มีอำนาจหน้าที่อย่างไร
ก. ศึกษา วางแผน และวางโครงการเกี่ยวกับพลังงานและกิจการที่เกี่ยวข้อง
ข. ค้นคว้าและพัฒนา สาธิต และก่อให้เกิดโครงการริเริ่มเกี่ยวกับ การผลิต การแปรรูป การส่ง การใช้ และการอนุรักษ์แหล่งพลังงาน
ค. สำรวจ รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ทดลองและตรวจสอบเกี่ยวกับพลังงานในด้านแหล่งพลังงาน การผลิต การแปรรูป การส่ง และการใช้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๖ ให้กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) สำรวจ รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ทดลองและตรวจสอบเกี่ยวกับพลังงานในด้านแหล่งพลังงาน การผลิต การแปรรูป การส่ง และการใช้
(๒) ศึกษา วางแผน และวางโครงการเกี่ยวกับพลังงานและกิจการที่เกี่ยวข้อง
(๓) ค้นคว้าและพัฒนา สาธิต และก่อให้เกิดโครงการริเริ่มเกี่ยวกับ การผลิต การแปรรูป การส่ง การใช้ และการอนุรักษ์แหล่งพลังงาน
(๔) ออกแบบ สร้าง และบำรุงรักษาแหล่งผลิต แหล่งแปรรูป ระบบส่ง และ ระบบใช้พลังงาน เช่น การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและพลังงานชนิดใหม่ การผลิตเชื้อเพลิงจากชีวมวล และการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า
(๕) กำหนดระเบียบและมาตรฐานเกี่ยวกับการผลิต การแปรรูป การส่ง การใช้และการอนุรักษ์แหล่งพลังงาน ตลอดจนควบคุมและกำกับดูแลให้เป็นไปตามระเบียบและมาตรฐานนั้น
(๖) กำหนดอัตราค่าตอบแทนสำหรับการใช้พลังงานที่ดำเนินการ โดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
(๗) จัดให้มี ควบคุม สร้าง ซื้อ ขาย เช่า ให้เช่า โอน หรือรับโอนแหล่งผลิต แหล่งแปรรูป ระบบส่งและระบบจำหน่ายพลังงาน และออกใบอนุญาตผลิตหรือขยายการผลิตพลังงาน
(๘) ถ่ายทอดเทคโนโลยี ส่งเสริม ฝึกอบรม เผยแพร่เกี่ยวกับการผลิต การแปรรูป การส่ง การใช้และการอนุรักษ์แหล่งพลังงาน ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการประสานความร่วมมือในกิจการที่เกี่ยวข้อง
7. ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่ของอธิบดีกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
ก. กำหนดอัตราค่าตอบแทนสำหรับการใช้พลังงานที่ดำเนินการ โดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
ข. ควบคุมและดูแลโดยทั่วไปซึ่งราชการของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
ค. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างในกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ก. กำหนดอัตราค่าตอบแทนสำหรับการใช้พลังงานที่ดำเนินการ โดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
มาตรา ๗ ให้อธิบดีมีหน้าที่ควบคุมและดูแลโดยทั่วไปซึ่งราชการของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน และเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างในกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน มาตรา ๘ ในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานอาจมอบให้ กระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ ปฏิบัติการเฉพาะอย่างแทนได้
8. พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจที่จะใช้สอยหรือเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ในความครอบครองของบุคคลใดๆ ซึ่งมิใช่เคหสถานเป็นการชั่วคราวภายใต้เงื่อนไข
ก. การใช้สอยหรือเข้าครอบครองนั้นเป็นการจำเป็นสำหรับการสำรวจแหล่งผลิต ระบบส่ง ระบบจำหน่ายพลังงาน และการป้องกันอันตรายหรือความเสียหายอันอาจเกิดแก่การผลิต การส่ง หรือการจำหน่ายพลังงาน
ข. ได้แจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
ค. ได้แจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน
ง. ถูกทั้ง ก และ ค.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ค.
มาตรา ๑๔ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจที่จะใช้สอยหรือเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ในความครอบครองของบุคคลใดๆ ซึ่งมิใช่เคหสถานเป็นการชั่วคราวภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
(๑) การใช้สอยหรือเข้าครอบครองนั้นเป็นการจำเป็นสำหรับการสำรวจแหล่งผลิต ระบบส่ง ระบบจำหน่ายพลังงาน และการป้องกันอันตรายหรือความเสียหายอันอาจเกิดแก่การผลิต การส่ง หรือการจำหน่ายพลังงาน และ
(๒) ได้แจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้นแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ทรงสิทธิอื่น เนื่องจากการกระทำของพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวในวรรคหนึ่ง บุคคลเช่นว่านั้นย่อมเรียกค่าทดแทนจากกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานได้ และถ้าไม่สามารถตกลงกันในจำนวนค่าทดแทน ให้นำมาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
9. ในกรณีที่กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานเดินสายหรือท่อพลังงานติดไปกับสิ่งก่อสร้างของบุคคลใดๆ ที่อยู่เหนือหรือติดกับทางสัญจรของประชาชน เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินอาจยื่นคำร้องแสดงเหตุที่ไม่สมควรทำเช่นนั้นไปยังรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาวินิจฉัยภายในกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง
ก. 15 วัน ค. 45 วัน
ข. 30 วัน ง. 7 วัน
ตอบ ก. 15 วัน
มาตรา ๑๘ ก่อนที่กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานจะดำเนินการตามมาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๑๗ ให้กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานแจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องทราบ เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินนั้น อาจยื่นคำร้องแสดงเหตุที่ไม่สมควรทำเช่นนั้นไปยังรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาวินิจฉัยได้ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง ในกรณีเช่นว่านี้ ให้กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานรอการดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าจะแจ้งคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้ผู้ยื่นคำร้องทราบแล้ว คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
10. ในกรณีที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่นไม่ยินยอมตกลง ในจำนวนเงินค่าทดแทนที่กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานจ่ายให้พลังงาน นำเงินจำนวนดังกล่าวไปวางไว้ ณ ที่ใด
ก. ศาล
ข. ธนาคารออมสินในชื่อของเจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สิน
ค. สำนักงานวางทรัพย์
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๒ ในกรณีที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่นไม่ยินยอมตกลง ในจำนวนเงินค่าทดแทนที่กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานจ่ายให้ตามมาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๑๙ หรือหาเจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่นนั้นไม่พบ ให้กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน นำเงินจำนวนดังกล่าวไปวางไว้ต่อศาลหรือสำนักงานวางทรัพย์ หรือฝากไว้กับธนาคารออมสินในชื่อของเจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่น โดยแยกฝากไว้เป็นบัญชีเฉพาะราย และถ้ามีดอกเบี้ยหรือดอกผลใดเกิดขึ้นเนื่องจากการฝากเงินนั้น ให้ตกเป็นสิทธิแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่นนั้นด้วย
เมื่อกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานนำเงินค่าทดแทนไปวางไว้ต่อศาล หรือสำนักงานวางทรัพย์หรือฝากไว้กับธนาคารออมสินตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานมีหนังสือแจ้งให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่นทราบ โดยส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ ในกรณีหาเจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่นไม่พบ ให้ประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันที่มีจำหน่ายในท้องถิ่นอย่างน้อยสองวันติดต่อกัน เพื่อให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือผู้ทรงสิทธิอื่นทราบ
11. การกำหนดพลังงานประเภทใด ขนาดและวิธีการผลิต หรือการใช้อย่างใดให้เป็นพลังงานควบคุม ให้ตราเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ค. พระราชกำหนด
ข. พระราชกฤษฎีกา ง. กฎกระทรวง
ตอบ ข. พระราชกฤษฎีกา
มาตรา ๒๔ การกำหนดพลังงานประเภทใด ขนาดและวิธีการผลิต หรือการใช้อย่างใดให้เป็นพลังงานควบคุม ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
12. การกำหนดหลักเกณฑ์ในผลิต หรือขยายการผลิตพลังงานควบคุม ให้คำนึงถึงอะไร
ก. การใช้วัตถุดิบหรือวัตถุธรรมชาติตามหลักวิชา
ข. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ
ค. อันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการผลิตหรือการขยายการผลิตพลังงาน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๕ ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต หรือขยายการผลิตพลังงานควบคุม เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน การขอรับใบอนุญาตและออกใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง การผลิตพลังงานควบคุมใดซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตหรือรับสัมปทานตามกฎหมายอื่น จะต้องได้รับอนุญาตหรือรับสัมปทานตามกฎหมายนั้นด้วย
มาตรา ๒๖ การกำหนดหลักเกณฑ์ในกฎกระทรวงตามมาตรา ๒๕ ให้คำนึงถึงกรณี ดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ
(๒) อันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการผลิตหรือการขยายการผลิตพลังงาน
(๓) การใช้วัตถุดิบหรือวัตถุธรรมชาติตามหลักวิชา
13. กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานพิจารณาการขอรับใบอนุญาตให้เสร็จภายในกี่วัน
ก. 90 วัน ค. 60 วัน
ข. 120 วัน ง. 180 วัน
ตอบ ข. 120 วัน
มาตรา ๒๗ ให้กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานพิจารณาการขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๒๕ ให้เสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวัน นับแต่วันที่กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานได้รับคำขอ ที่มีรายละเอียดถูกต้องและครบถ้วนตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ในการอนุญาตดังกล่าว กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน อาจกำหนดเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ได้
(๑) อัตราค่าตอบแทนอย่างสูงที่จะพึงเรียกจากผู้ใช้พลังงานควบคุม ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
(๒) การกำหนดเขตการจ่ายพลังงาน และขนาดของเครื่องจักรที่จะติดตั้งเพื่อทำการผลิต
(๓) การดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักวิชา เช่น การวางสาย การป้องกันอัคคีภัย การป้องกันความเสียหายของเครื่องจักร การป้องกันอันตราย หรือการกำหนดประเภทหรือวิธีการใช้วัตถุดิบหรือวัตถุธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตพลังงานควบคุม
14. ในกรณีที่อาจเกิดการขาดแคลนพลังงานควบคุมเป็นครั้งคราว หรือกรณีจำเป็นอย่างอื่น เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจของประเทศ อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ผลิตพลังงานควบคุมปฏิบัติอย่างไร
ก. เปลี่ยนประเภทของวัตถุดิบหรือวัตถุธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตพลังงานควบคุม
ข. เปลี่ยนแปลงอัตราค่าตอบแทนอย่างสูงที่จะพึงเรียกจากผู้ใช้พลังงาน ควบคุม
ค. ลดหรือเพิ่มการผลิต การจำหน่าย หรือการใช้พลังงานควบคุม
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๘ ในกรณีที่อาจเกิดการขาดแคลนพลังงานควบคุมเป็นครั้งคราว หรือกรณีจำเป็นอย่างอื่น เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจของประเทศ อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ผลิตพลังงานควบคุมปฏิบัติดังต่อไปนี้
(๑) ลดหรือเพิ่มการผลิต การจำหน่าย หรือการใช้พลังงานควบคุม
(๒) เปลี่ยนประเภทของวัตถุดิบหรือวัตถุธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตพลังงานควบคุม
(๓) เปลี่ยนแปลงอัตราค่าตอบแทนอย่างสูงที่จะพึงเรียกจากผู้ใช้พลังงาน ควบคุม
15. เพื่อประโยชน์แก่การระงับหรือป้องกันอันตรายที่อาจมีแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน หรืออนามัยของประชาชน หรือความมั่นคงของประเทศ อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ผลิตพลังงานควบคุมปฏิบัติอย่างไร
ก. จัดหา หรือสร้างสิ่งใดๆ ซึ่งจะขจัดหรือป้องกันอันตราย
ข. เปลี่ยนแปลง ซ่อมแซม หรือบูรณะอาคาร เครื่องจักร เครื่องอุปกรณ์ เครื่องมือหรือเครื่องใช้
ค. งดการผลิต การส่ง การใช้ หรือการจำหน่ายพลังงานควบคุมเป็นการ ชั่วคราวจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่ง ตาม (ก) หรือ (ข)
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๙ เพื่อประโยชน์แก่การระงับหรือป้องกันอันตรายที่อาจมีแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน หรืออนามัยของประชาชน หรือความมั่นคงของประเทศ อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ผลิตพลังงานควบคุมปฏิบัติดังต่อไปนี้
(๑) เปลี่ยนแปลง ซ่อมแซม หรือบูรณะอาคาร เครื่องจักร เครื่องอุปกรณ์ เครื่องมือหรือเครื่องใช้
(๒) จัดหา หรือสร้างสิ่งใดๆ ซึ่งจะขจัดหรือป้องกันอันตราย
(๓) งดการผลิต การส่ง การใช้ หรือการจำหน่ายพลังงานควบคุมเป็นการ ชั่วคราวจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งตาม (๑) หรือ (๒)
16. ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกตามสมควรแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ในการเข้าไปในสถานที่ใดๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือเวลาทำการของสถานที่นั้นๆ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง หรือเพื่อตรวจสอบเอกสาร หรือสิ่งของใดๆ ที่เกี่ยวกับกิจการพลังงานจากบุคคลที่อยู่ในสถานที่เช่นว่านั้นได้ตามความจำเป็น มีโทษอย่างไร
ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตราที่ ๓๓ ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกตามสมควรแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติการตามมาตรา ๑๑ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๖ มาตรา ๑๗ มาตรา ๑๙ หรือมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
17. ใครเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน
ค. อธิบดีกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน
18. ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของอธิบดีที่สั่งตามมาตรา ๒๘ หรือมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ง. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๒๘ ในกรณีที่อาจเกิดการขาดแคลนพลังงานควบคุมเป็นครั้งคราว หรือกรณีจำเป็นอย่างอื่น เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจของประเทศ อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ผลิตพลังงานควบคุมปฏิบัติดังต่อไปนี้
(๑) ลดหรือเพิ่มการผลิต การจำหน่าย หรือการใช้พลังงานควบคุม
(๒) เปลี่ยนประเภทของวัตถุดิบหรือวัตถุธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตพลังงานควบคุม
(๓) เปลี่ยนแปลงอัตราค่าตอบแทนอย่างสูงที่จะพึงเรียกจากผู้ใช้พลังงาน ควบคุม
มาตรา ๒๙ เพื่อประโยชน์แก่การระงับหรือป้องกันอันตรายที่อาจมีแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน หรืออนามัยของประชาชน หรือความมั่นคงของประเทศ อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ผลิตพลังงานควบคุมปฏิบัติดังต่อไปนี้
(๑) เปลี่ยนแปลง ซ่อมแซม หรือบูรณะอาคาร เครื่องจักร เครื่องอุปกรณ์ เครื่องมือหรือเครื่องใช้
(๒) จัดหา หรือสร้างสิ่งใดๆ ซึ่งจะขจัดหรือป้องกันอันตราย
(๓) งดการผลิต การส่ง การใช้ หรือการจำหน่ายพลังงานควบคุมเป็นการ ชั่วคราวจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่ง ตาม (๑) หรือ (๒)
19. ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๕ ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต หรือขยายการผลิตพลังงานควบคุม ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ง. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
20. ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๒ ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ค. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ